เปิดตัวแล้วกับ All New BMW X1 และ BMW iX1 รหัสตัวถัง U11 SUV ขนาดเล็กขายดียอดนิยมของ BMW ในที่สุดก็ถึงเวลาเปลี่ยนโฉมแล้วหลังจากที่รุ่นปัจจุบันเปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ดีไซน์ภายนอกเปลี่ยนโฉมใหม่ ภายในใหม่ที่มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์ที่มีให้เลือกหลากหลายทั้งดีเซล, เบนซิน, Mild Hybrid, Plug in Hybrid และใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ในรุ่น BMW iX1 รายละเอียดเพิ่มเติมจะเป็นอย่างไรตามลงไปอ่านด้านล่างได้เลยครับ
(BMW iX1)
(BMW X1 xDrive30e)
ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบให้มีความเหลี่ยมสันมากขึ้นจากรุ่นที่แล้ว กระจังหน้า Kidney Grille มีขนาดใหญ่มากขึ้น มาพร้อมกับไฟหน้า LED หรือสามารถเลือกออพชั่นเพิ่มเติมเป็น Matrix LED ได้ รวมทั้งไฟท้ายรูปทรงใหม่ที่เป็น LED 3 มิติ ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มมิติของรถให้ดูแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ก็ลู่ลมมากขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยค่า Cd. หรือค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำสุดเพียง 0.26 เท่านั้น
(BMW iX1)
(BMW X1 xDrive30e)
ภายในประกอบไปด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “BMW Curved Display” ที่มีทั้งมาตรวัดขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.7 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 สามารถนำทางได้ผ่าน AR (Augmented View) และยังมีเครื่องเสียงจาก Harman Kardon 12 ลำโพงติดตั้งมาให้ด้วย ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งที่ปรับปรุงใหม่ พื้นที่ภายในที่กว้างขวางขึ้น และยังสามารถเพิ่มออพชั่นสำหรับเบาะนวดได้ เบาะหลังสามารถพับเพื่อเพิ่มพ้นที่สัมภาระเป็น 40:20:40 ได้ มีความจุตั้งแต่ 540-1,600 ลิตร
เครื่องยนต์ใน BMW X1 ใหม่นี้จัดเต็มทุกขุมกำลัง และครบครันทั้งเบนซิน, ดีเซล, Mild Hybrid, Plug-in Hybrid และพลังงานไฟฟ้า 100% ดังนี้
X1 sDrive18i
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร Twin Power Turbo 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด
X1 sDrive18d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด
X1 xDrive23i
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 48V Mild Hybrid ที่ช่วยในการออกตัว รวมพละกำลังทั้งหมด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด
X1 xDrive23d
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 48V Mild Hybrid ที่ช่วยในการออกตัว รวมพละกำลังทั้งหมด 211 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด
X1 xDrive25e
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร Twin Power Turbo 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 109 แรงม้า 247 นิวตันเมตร รวมพละกำลังทั้งหมด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 477 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด พร้อมกับช่องชาร์จ Plug-in Hybrid แบตเตอร์รีขนาด 14.2 kWh รองรับการชาร์จ AC 7.4 kW จาก 0-100% ภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง
X1 xDrive30e
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร Twin Power Turbo 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้า 247 นิวตันเมตร รวมพละกำลังทั้งหมด 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 477 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด พร้อมกับช่องชาร์จ Plug-in Hybrid แบตเตอร์รีขนาด 14.2 kWh รองรับการชาร์จ AC 7.4 kW จาก 0-100% ภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง
iX1 eDrive30
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว รวมกำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 494 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive มาพร้อมกับแบตเตอร์รีขนาด 64.7 kWh วิ่งได้ทางไกลสูงสุด 438 กิโลเมตรตามมาตรฐานของ WLTP โดยสามารถชาร์จ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11kW 0-100% ใช้เวลา 6 ชั่วโมง 30 นาที ถ้าเป็นชาร์จ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22kW 0-100% ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 45 นาที และชาร์จแบบ DC Fast Charge รองรับการชาร์จสูงสุด 130 kW จาก 10-80% ใช้เวลา 29 นาที และชาร์จเพียง 10 นาทีก็ได้ระยะทางวิ่งมากถึง 120 กิโลเมตร
BMW X1 และ BMW iX1 เตรียมส่งมอบในยุโรปช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป และเปิดตัวในประเทศไทยช่วงปี 2023 ส่วนจะมีขุมพลังใดมาทำตลาดบ้างรอติดตามกันต่อไปครับ
////////////////////////////////////////////////////////
Footnote from WST :
ติดเครื่องยนต์แล้วขับไปด้วยกันนะครับ กับ #ขับกวน : #DriveGuan ฝากติดตามด้วยนะครับ 🙂
