โมเดลธุรกิจออนไลน์ของ Uber ที่เปิดตัวให้บริการแท๊กซี่ในระบบออนไลน์อย่างครบวงจรนั้นกลายเป็นก้าวแรกที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยอาจจะเป็นที่ก้าวจังหวะที่เติบโตเร็วเกินไป และคู่แข่งที่ยกระดับการแข่งขันขึ้นมาจนไม่สามารถทำรายได้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ทาง Uber ได้ปรับโมเดลธุรกิจใหม่เป็นการทยอยควบรวมกิจการกับผู้ให้บริการในท้องถิ่นแทน
โดยล่าสุดทาง Uber ได้ประกาศควบรวมกิจการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของตนเองให้กับทาง Grab ภายใต้ข้อเสนอที่ไม่ได้รับการเปิดเผย ระบุแต่เพียงว่าเป็นวงเงินหลักหลายพันล้านดอลลาร์ และภายใต้ข้อเสนอดังกล่าวนี้ทาง Uber จะเข้าถือหุ้น 27.5 เปอร์เซ็นต์ในธุรกิจของ Grab เช่นเดียวกับ Dara Khosrowshahi เจ้าหน้าที่ประธานบริหารคนใหม่ของ Uber จะเข้าร่วมเป็นบอร์ดบริหารของ Grab ในโอกาสนี้ด้วย
ด้าน CEO Uber นั้นระบุว่าบริษัทได้ลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้วกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าควบรวมกิจการร่วมกับ Grab ทำให้บริษัทจะได้เป็นผู้ถือหุ้นและเป็นเจ้าของในเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจมูลค่าหลักหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา Uber ได้ควบรวมกิจการในลักษณะเดียวกันนี้กับ Didi Chuxing ในประเทศจีนเมื่อสิงหาคม 2016 เช่นเดียวกับ Yandex.Taxi ในประเทศรัสเซียเมื่อกรกฏาคม 2017 มาก่อนแล้ว และสำหรับ Grab นั้นมีผู้ลงทุนรายใหญ่อย่าง SoftBank และ Didi Chuxing ให้การสนับสนุนในการระดมทุน