ลองแล้วเล่า

ลอง(นิดหน่อย)แล้วเล่า : Samsung Galaxy Z Fold 4 / Z Flip 4 “มองผ่านไม่ได้ใหม่ จับถือ ถึงรู้สึกว่าใหม่”

 

ไม่น่าเชื่อว่า มือถือจอพับที่ปัญหาเพียบ กว่าจะได้ออกขายจริง ราคาขายจริงก็แรงมาก จะมีอนาคตสานต่อมาได้ไกลขนาดนี้ กลายเป็นสินค้าที่มีปฏิทินแน่นอนว่า เป็นเรือธงปลายปีเสริมทัพกับ Galaxy S ที่ไว้เปิดตัวต้นปี รุ่นใหม่ปีนี้ Z Fold 4 / Z Flip 4 ที่ทุกคนน่าจะรู้สึกตรงกันว่า “ไม่ได้ใหม่อะไร” เพราะหน้าตาของรุ่นใหม่ แทบไม่ต่างกับก่อนหน้าเลย ตลอด 2 ชั่วโมงที่ลองเล่น (เท่าที่เล่นได้) ก็พอให้คำตอบได้ว่า หน้าตาที่ไม่ใหม่ แต่จริง ๆ ลงตัวขึ้นกว่าที่คิด และยังมีบางจุดที่ยังต้องรอต่อไปว่า เมื่อไหร่จะปรับให้ดีอย่างที่ควรจะเป็นเช่นกัน

Z Flip 4

หน้าตาไม่ได้ใหม่เลย เพราะเอาจริง ๆ หน้าตา Z Flip 3 คือสวยจบ ลงตัว ปรับจากนี้ ก็คงเป็นรายละเอียดให้สดใหม่ก็ไม่ผิดอะไร Z Flip 4 เลยมีหน้าตาที่มองผ่าน ๆ ไม่ได้ต่างจากรุ่นเดิม แต่มองง่าย ๆ ว่า รุ่นใหม่เหลี่ยมขึ้น สันเรียบแบนขึ้น ผิวสัมผัสต่าง ๆ สันกลางเปลี่ยนจากแบบด้านเป็นเงา ส่วนผิวกระจกหน้าและหลัง เปลี่ยนจากเงาเป็นด้าน สีสันตัวเครื่องปีนี้ ยกระดับให้ดูดีขึ้น สี Bora Purple กับ​ Blue คือสวยสุด แต่ Pink Gold ก็สานต่อจากสีครีมปีที่แล้วได้ดี ส่วน Graphite จับกลุ่มคุณสุภาพบุรุษได้ดีอยู่ 

การเปลี่ยนแกนกลางจากผิวด้านเป็นเงา และกดให้สันเครื่องราบเรียบขึ้น เปลี่ยนภาพให้กลับไปดูแวววาวเหมือนรุ่นแรก แต่ส่วนตัวผมชอบสีด้านแบบเดิมมากกว่า แต่ผิวเงาที่ทำมา ก็ดูเข้ากับภาพรวมเครื่องอยู่ ไม่ใช่แค่แกนกลาง แต่การเปลี่ยนผิวตัวถังเครื่องที่เคยเป็นกระจกแบบเงา เป็นกระจกแบบด้าน ทำให้ตัวเครื่องดูดีขึ้น มองแล้วก็เลยเข้าใจว่า ทำไมต้องทำสีแกนกลางให้ดูเงา การออกแบบแกนกลางให้เรียบขึ้น ส่งผลต่อการจับถือที่ดีขึ้นมาก ผิวแบบเงา แต่อาการลื่นขณะถือมือเดียว น้อยลงกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องใส่เคสก็ใช้งานได้มั่นใจมากขึ้น พอรวมกับการใช้งานกล้องแนว Flex Mode ในท่าที่พับ 90 องศา แล้วถือแนวนอนเหมือนใช้กล้องถ่ายวีดีโอ มันเข้ากับมือจริง ๆ 

 

บานพับในรุ่นก่อนหน้า ดูแน่นหนา แต่ยิ่งใช้ยิ่งหลวม สามารถหาจังหวะสอดนิ้ว แล้วสะบัดเครื่องให้กางได้ แต่ใน Z Flip 4 ความแน่นหนาดีขึ้นมาก แทบจะพยายามสะบัดให้กางออกด้วยมือเดียวยากมาก พอจับจริง อาจรู้สึกว่า น้ำหนัก ความแน่นหนา เหมือนไม่ได้ต่างจากรุ่นที่แล้ว แต่โดยรวม ยืนยันได้ว่า น้ำหนัก ความแน่นหนาของแกนฝาพับ Z Flip 4 ทำออกมาได้แข็งแรงขึ้น เล่าเรื่องบานพับแล้ว ต้องมาดูที่รอยพับของหน้าจอกันสักหน่อย ก็ต้องขอชมว่า รอยสะดุดในการลากนิ้วผ่านจุดที่พับ เรียบนิ้วขึ้นมาก ถึงจะยังพอสัมผัสได้ว่า จุดนี้เป็นรอยพับ แต่จุดนี้ถือว่าทำได้ดีขึ้นมาก และเนื้อหน้าจอด้านใน ยังไม่ทนต่อการขูดขีดหนัก ๆ ผู้ใช้งานที่ไว้เล็บ พึงระวังเล็บกรีดลงเนื้อหน้าจอด้วยนะครับ

 

หน้าจอด้านนอกขนาด 1.9 นิ้ว ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น ที่ชอบที่สุด คือการรองรับตั้งค่าลัด ไม่ว่าจะ Wi-Fi / Bluetooth ฯลฯ โดยไม่ต้องเปิดฝา ลากจอลงมา แต่ที่น่าจะได้ใจที่สุด คือการรองรับการถ่าย Portrait จากจอด้านนอก ปรับมุมมองแบบเห็นหมดได้ด้วยว่า กล้องอยู่ในมุมที่เราจัดท่าได้เรียบร้อยยัง เพราะจัดท่าเสร็จ ยกฝ่ามือก็สั่งกล้องถ่ายได้เลย หรือจะให้เพื่อน / แฟน ถ่ายให้ ก็มองผ่านหน้าจอนอกได้ว่า คนที่ถ่าย ถือได้ตรงใจเรายัง ก่อนจะสั่งถ่ายรูปผ่านการยกมือได้เช่นกัน ถือเป็นการใช้พื้นที่จอด้านนอกได้ดียิ่งขึ้นด้วย 

 

การใช้ Snapdragon 8+ Gen 1 เท่าที่ได้ลองเล่น ไม่ได้รู้สึกว่า เครื่องไวขึ้นกว่าเดิมชัด ๆ การตอบสนองไม่ได้หนีกับรุ่นก่อนมาก หรือดูเหนือกว่า S22 Ultra ที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 1 ชัด ๆ แต่สิ่งที่มอบให้คือ เครื่องเย็นมาก พยายามลองอะไรที่คิดว่า ต้องทำให้เครื่องร้อนหรือเรียกให้อุ่นได้บ้างละ ก็ไม่มีผลอะไรมาก ถือเป็นสัมผัสแรกที่ดีขึ้น ในส่วนกล้องถ่ายรูป สิ่งที่ดีขึ้นเท่าที่เห็นคือ การเกลี่ย Noise ดีขึ้นอย่างชัดเจน คล้าย ๆ กับกล้องใน S22 Series แต่บางสภาพแสง จะมองเห็นว่ากล้องตั้งค่ารับแสงเกินปกติไว้ก่อน หากเข้าใจการถ่ายรูป ให้แตะเลือกจุดถ่าย แล้วปรับลดหรือเพิ่มเสงด้วยตัวเอง ภาพที่ได้ก็จะลงตัวมากขึ้น ถือว่าเรื่องกล้องถ่ายรูป ได้รับการปรับให้ใช้จริงได้ดีขึ้นแล้ว 

 

โดยรวมแล้ว Z Flip 4 ใหม่ที่การเติมประสบการณ์ใช้งานให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ถึงรวม ๆ สามารถอัพเดทซอฟท์แวร์ใน Z Flip 3 ก็ได้เหมือนกันก็ตาม แต่การเติมเต็มรายละเอียดในงานประกอบ ความเรียบร้อย สีสัน ทำให้หน้าตาที่ทำมาดูดีจากรุ่นที่แล้ว สนิทใจที่จะใช้งานจริง หรือถ้ายังไม่แน่ใจ ก็ดูเป็นการปรับปรุงโดยรวมที่น่าลองใช้เช่นกัน ไปที่ Z Fold 4 กันต่อเลยครับ

 

Z Fold 4

 

ตั้งแต่ Fold แรกที่กว่าจะเข็นออกมาได้ จนถึง Fold 2 ที่ดูดีลงตัวขึ้น ส่วน Fold 3 ถือว่าเริ่มเข้าที่เข้าทางขึ้น ในเมื่อหน้าตา รูปทรง ภาพรวมมาถูกทางแล้ว ในรุ่นที่ 4 ก็เลยดูเหมือนไม่ได้มีอะไรใหม่ มองหน้าตาแล้วก็อาจแยกไม่ออกว่า ใหม่ตรงไหน อย่างแรกเลยคือสี โทนสีเบจ สีเขียว สีดำ มองแล้วรู้เลยว่าเป็นรุ่น 4 ดูหรู แพง ลดภาพมือถือผู้ชาย ให้ผู้หญิงถือแล้วก็ดูดีเช่นกัน พอหยิบเครื่องขึ้นมาในมือ ความรู้สึกเบาขึ้นกว่าเดิม จอด้านหน้าลดขอบ เปลี่ยนกระจกให้แบนราบ ขนาด 6.2 นิ้ว กลายเป็นจอด้านหน้าที่เทียบเท่ามือถือรุ่นท็อปหนึ่งเครื่อง แปลว่าขณะใช้งานมือเดียว สามารถใช้งานได้ดีเหมือนมือถือปกติแล้ว

พอเปิดเข้าจอด้านใน บานพับมีน้ำหนักช่วงประกบติดที่แน่นกว่าเดิม พอง้างได้ ต้านมือกำลังดี ไม่ลื่นจนไหล แต่ไม่ฝืดติดจนออกแรงมากไป ทำมาดูลงตัวที่สุดในแง่ความแข็งแรง ความนุ่มมือ ถึงจะยังไม่ได้พับแบบประกบสนิท แต่ช่องว่างก็ถือว่าน้อยมากแล้ว พอกางสุด จุดที่เป็นรอยพับทำได้เรียบขึ้น เอานิ้วลากผ่าน เรียบกว่ารุ่นที่แล้วแบบเห็นได้ชัด ส่วนภาพในจอก็ดูไม่เป็นรอยพับเท่ารุ่นก่อน ส่วนกล้องแบบซ่อนใต้จอรุ่นที่ 2 ถึง Samsung จะบอกว่าเพิ่มความละเอียดให้ซ่อนได้เนียนขึ้น แต่สิ่งที่เห็นคือ ในการแสดงผลสีมืด จะรู้สึกว่าเนียนขึ้น แต่พอเป็นสีขาว สีสว่าง จะมองเห็นได้อยู่ว่า กล้องอยู่ตรงไหน ผ่านไปอีกสัก 1-2 รุ่น น่าจะกลมกลืนกับหน้าจอจริง ๆ สีหน้าจอ การแสดงผล เห็นได้ชัดว่าสวยขึ้นจากรุ่นก่อนหน้ามาก

แต่ที่ดีใจที่สุดคือ UI เกือบทุกจุด เป็นหน้าตาที่ทำมาได้สมกับพื้นที่หน้าจอ ไม่ใช่เอาหน้าตาเมนูมือถือมายืดขยาย เมื่อรวมกับ Taskbar ด้านล่าง การจัดแสดงผลใช้งานที่จัดพื้นที่หน้าจอได้หยืดหยุ่นขึ้น เติมเต็มเสน่ห์ของ Fold ให้ลงตัวขึ้นมาก (หาก​ App ใน Play Store พร้อมใจกันทำงานเข้ากับเครื่องด้วยนะ) เหลือแค่เพียงหน้าตา Keyboard ของจอด้านใน ที่มองยังไง ก็ควรหาวิธีออกแบบให้มันใช้งานเข้ากับสองมือได้ โดยไม่ใช่การฉีกปุ่มออกจากกัน แล้วเหลือที่ตรงกลางว่าง ๆ ไว้แบบที่เป็นอยู่ และเช่นกันกับ Flip 4 การใช้ Snapdragon 8+ Gen 1 ทำให้เครื่องใช้งานแล้วเย็นกว่าที่ควรจะเป็น แต่ถ้าว่าด้วยความเร็ว ไม่ได้รู้สึกว่าต่างไปจากรุ่นที่แล้วมาก ในส่วนกล้องถ่ายรูป ชัดเจนว่าการปรับสเปกกล้องหลักเป็น 50MP ตั้งค่าออกมาแนวเดียวกับ S22 Ultra ให้แนวโน้มคุณภาพการถ่ายรูปจาก​Fold 4 ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วแน่นอน

โดยรวมแล้ว Fold 4 เหมือนจะไม่ได้ใหม่ไปกว่าเดิม แต่การปรับสัดส่วนเครื่อง หน้าจอ หน้าตาเมนูที่เล่นกับพื้นที่หน้าจอได้ลงตัวขึ้น จอด้านหน้าที่เทียบเท่ามือถือปกติหนึ่งเครื่อง สีสัน น้ำหนักเครื่อง ที่ดูเป็นมิตรกับคุณสุภาพสตรีมากขึ้น หากเคยใช้รุ่นแรกหรือรุ่นสอง แล้วยังชอบอยู่ รุ่น 4 ก็ยกระดับให้สนิทใจมากขึ้น แต่ถ้าใช้รุ่น 3 อยู่ การอัพเดทซอฟท์แวร์ในอนาคต น่าจะเพียงพอที่ทำให้การใช้งานต่ออีก 1-2 ปี ได้ประสบการณ์ที่ดีโดยที่ไปรอรุ่นใหม่ในอนาคตได้เช่นกัน

ส่งท้าย

ผู้บริโภคทุกคนคาดหวังให้การออกสินค้าใหม่ ต้องใหม่ในความรู้สึกจริง ๆ เพราะสิ่งที่ผู้บริโภคมองเห็น คือสิ่งที่เค้ารับรู้ได้ว่าใหม่หรือเปล่า แต่สัจธรรมของ Gadget รุ่นใหม่ ๆ เดี๋ยวนี้คือการเน้น ปรับปรุงทีละนิด เช่นกันกับ Z Series ที่ Samsung ก็หาแนวตัวเองเจอแล้ว หน้าตาของ Flip 3 / Fold 2ถือเป็นจุดตั้งต้นที่ถูกต้องแล้ว เปลี่ยนรายละเอียด เน้นการใช้งานให้สอดคล้องกับพื้นที่หน้าจอ การพับจอ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประสบการณ์ที่ดี แล้วปากต่อปากเองว่า มือถือจอพับใช้ดีกว่าอย่างไร

4 ปีที่ Samsung ทำตลาดมือถือจอพับออกมา คงเหลือแค่เรื่องเดียวที่ Samsung ต้องทำให้สำเร็จ นั่นคือ “ความทนทาน” ยิ่งในยุคที่คนส่วนใหญ่ เปลี่ยนมือถือกันช้าลง ใช้งานกันนานขึ้นกว่าจะเปลี่ยนรุ่นใหม่ ต้นทุนของมือถือจอพับที่อยู่ในจุดแค่ “พอทำราคาได้” ต้องให้ความทนทานเป็นสิ่งยืนยันความมั่นใจด้วย หาก Flip 4 / Fold 4 ผ่านไป 1-2 ปีจากนี้ แล้วแทบไม่มีข้อวิจารณ์เครื่องความทนทานทั้งในแง่ตัวเครื่อง หรือหน้าจอพับที่ขาดเองแบบไม่มีสาเหตุได้แบบแต่ก่อน

สัมผัสแรกที่ได้ลอง ก็พอจะเชื่อได้ว่า Samsung รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรให้มือถือจอพับมีอนาคตที่ดีจากนี้เช่นกัน

 

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

 

รับชมสรุปจากงานเปิดตัวได้ที่นี่ครับ

Samsung Galaxy Unpacked August 2022 : มือถือจอพับ หูฟัง นาฬิกา และสี Bora Purple

รับชมเวอร์ชั่นวีดีโอสั้นๆ ได้ที่นี่ครับ

https://vt.tiktok.com/ZSRk1FBvc/

https://vt.tiktok.com/ZSRk1eTr1/

https://vt.tiktok.com/ZSRk11r4h/

คณะแกดกวน #teamgadguan

ดลกุล เนตรรัตนากุล (zipboy)

ชื่อเต๋า อายุหลัก 3 ชอบของเล่นไฮเทคทั้งหลาย แต่ไม่ค่อยจะได้เล่น ต้องไปยืมชาวบ้านมาลอง เป็นกรรมกรประจำ #TeamGadGuan รักที่จะเขียน และรักคนอ่านครับ^^